Perio-Chula
ภาควิชาปริทันตวิทยา
รายการ
ประวัติภาควิชา
อาจารย์และบุคลากร
หลักสูตร
กระดาน ถาม-ตอบ
ความรู้เรื่องเหงือกและฟัน
Links
 
 
 
 
 

Sinc ๑๙/ตค./๔๔
  ขั้นตอนการเกิดโรคปริทันต์
ท่านมีอาการอย่างนี้บ้างหรือไม่
    เลือดออกขณะแปรงฟัน
    เหงือกบวมแดง
    มีกลิ่นปาก
    เหงือกร่น
    มีหนองออกจากร่องเหงือก
    ฟันโยก
    ฟันเคลื่อนห่างออกจากกัน
    ถ้าท่านมีอาการดังกล่าว แสดงว่า โรคปริทันต์ได้มาเยี่ยมเยียนท่านแล้ว ถ้าท่านละเลยการทำความสะอาดฟัน จะทำให้มีคราบจุลินทรีย์สะสมบนตัวฟันมากขึ้น ทำให้เกิดโรคปริทันต์ได้
    โรคปริทันต์นั้นขบวนการที่เกิดต่อเนื่องกัน แต่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น จึงแยกออกเป็น ๕ ขั้นตอนดังนี้คือ
    ขั้นที่ ๑ เหงือกอักเสบ บวม แดง
    ปกติเหงือกจะมีสีชมพูซีด และรัดแน่นรอบคอฟัน โดยมีร่องเหงือกลึกประมาณ ๐.๕-๓ มม. การวัดความลึกของร่องเหงือกใช้เครื่องมือเรียก เครื่องมือตรวจปริทันต์ (Periodontal Probe) เมื่อมีคราบจุลินทรีย์สะสมมากขึ้นบนตัวฟัน โดยเฉพาะใกล้ขอบเหงือกและเข้าไปในร่องเหงือก ทำให้สารพิษซึ่งอยู่ในคราบจุลินทรีย์ซึมผ่านเข้าไปในเหงือกได้ จึงเกิดการอักเสบของเหงือกขึ้น การอักเสบทำให้เหงือกไม่รัดแน่นกับฟัน ทำให้คราบจุลินทรีย์สามารถเข้าไปในร่องเหงือกง่ายขึ้น และทำอันตรายมากขึ้น ร่างกายจะต่อสู้โดยส่งเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น ทำให้หลอดเลือกบริเวณนั้นขยายใหญ่ขึ้น เหงือกจึงบวม แดง และมีการอักเสบ ดังนั้นเมื่อโดนแปรงหรือแรงกดใดเพียงเบา ๆ จะทำให้เลือดออกได้
    การให้การรักษาที่ถูกต้องและการรักษาสุขภาพช่องปากอย่างดีในระยะแรกนี้ สามารถหยุดโรคเหงือกอักเสบนี้ได้อย่างสิ้นเชิง เหงือกสามารถกลับสู่สภาพเดิมได้
    ขั้นที่ ๒ ถ้าละเลยให้มีคราบจุลินทรีย์สะสมมากขึ้น จะทำให้คราบจุลินทรีย์บุกรุกเข้าไปในร่องเหงือกมาขึ้นไปอีก ร่องเหงือกก็จะลึกยิ่งขึ้นเนื่องจากเกิดการทำลายของเส้นใยเหงือก ถ้าร่องเหงือกลึกเกิน ๓ ม.ม. เรียกร่องเหงือกนั้นว่า ร่องลึกปริทันต์ (Periodontal Pocket) ซึ่งร่องลึกปริทันต์นี้ทำความสะอาดได้ยากมาก และจะทำความสะอาดเองไม่ได้เลย เมื่อคราบจุลินทรีย์เปลี่ยนเป็นหินปูน สารพิษจากคราบจุลินทรีย์ในร่องลึกปริทันต์ ๔ ม.ม. สามารถทำลายกระดูกใกล้เคียงได้
    การรักษาโดยการขูดหินปูนและทำให้รากฟันเรียบปราศจากสารพิษร่วมกับการทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้องจะทำให้การดำเนินของโรคช้าลง หรือหยุดได้ แต่เหงือกและกระดูกไม่สามารถจะกลับสู่สภาพเดิมได้อย่างสมบูรณ์
    ขั้นที่ ๓ คราบจุลินทรีย์สะสมลึกมากขึ้น ทำให้เกิดการสูญเสียกระดูกเบ้าฟัน และร่องลึกปริทันต์จะเลื่อนไปทางปลายรากฟันมากขึ้น จะมีหนองเกิดภายในร่องลึกปริทันต์ซึมเข้าไปภายในช่องปาก ทำให้มีกลิ่นปาก
การรักษาร่วมกับการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ยังคงหยุดการดำเนินของโรคในขั้นนี้ได้
    ขั้นที่ ๔ ในขั้นนี้จะมีการสูญเสียกระดูกเบ้าฟันไปประมาณครึ่งหนึ่ง และเหงือกจะร่นตามไปด้วย ทำให้เห็นฟันยาวขึ้นบางครั้งเหงือกจะไม่ร่นตามกระดูก แต่จะใหญ่ขึ้นเพราะมีการอักเสบระยะนานทำให้มักเข้าใจผิดไปว่าปกติ อันที่จริงแล้วมีโรคอยู่ข้างใต้ จะมีอาการปวด บวม เป็นฝี เนื่องจากการระบายหนองออกจากร่องลึกปริทันต์ติดขัดเมื่อฝีแตกก็จะหายปวด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะหายขาด จะเป็น ๆ หาย ๆ อยู่เช่นนี้ จนกว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะมีการละลายของกระดูกมากขึ้น ทำให้ฟันโยกมากขึ้นในที่สุดจะถึงขั้นที่ ๕
    ขั้นที่ ๕ ขั้นนี้เป็นขั้นสุดท้าย เนื่องจากมีการละลายของกระดูกเบ้าฟันมากจนเกือบถึงปลายรากฟัน โยกมาก เพราะไม่มีกระดูกมายึดไว้ซึ่งในขั้นนี้ไม่สามารถให้การรักษาใด ๆ ได้ นอกจากต้องถอนฟันซี่นั้นไป
e-mail beuver24@yahoo.com Phone: ๐๒- ๒๑๘-๘๘๔๙ , ๐๒-๒๑๘-๘๘๕๐
Copyright ©Copyright ๒๕๔๔ Perio-Chula .cjb.net , All right reserved. Designed by Designed by ai_rit@BongZ.cjb.net , Pirote and Manop